รีโนเวตบ้านทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ความสวยงามที่ถ่ายทอดผ่านฟังก์ชัน
รีโนเวตบ้านทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ใจกลางเมือง ซึ่งหลังนี้เป็นบ้านเดิมของ คุณตรรก อัครเศรณี ผู้รับหน้าที่ออกแบบและรีโนเวตบ้านหลังเก่าที่ผูกพันและเติบโตมาพร้อมกับการเห็นบ้านหลังนี้ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง ปรับปรุงไปตามยุคสมัย
Design Directory : สถาปนิก Taak Interior and Architect



ก่อน รีโนเวตบ้านทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น หลังนี้ คุณตรรกเล่าเท้าความว่า บ้านนี้เคยผ่านการรีโนเวตมาแล้วหนึ่งครั้ง เพื่อรองรับการอยู่อาศัยคนเดียวในช่วงวัยหนุ่ม แต่เมื่อวันหนึ่งมีครอบครัวเข้ามาเติมเต็ม ทั้งในชีวิตและพื้นที่ในบ้านหลังเดิมที่คุ้นเคย จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณตรรกตัดสินใจรีโนเวตบ้านอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งก่อน เพราะแต่ละพื้นที่ได้คิดมาให้ตอบโจทย์กับวิถีการอยู่อาศัยของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยภรรยาและลูกๆ ทั้ง 2 คน รวมไปถึงเหล่าน้องแมว โดยหยิบยกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่อาศัยในพื้นที่แบบเดิมมาปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อยู่สบายยิ่งขึ้น และทุกคนแฮปปี้ยิ่งขึ้น
บ้านที่อยู่สบายคือบ้านที่อยู่ได้จริง
“บ้านที่รีโนเวตไปครั้งแรก เราเน้นดีไซน์สวยงามสไตล์ทรอปิคัล โอเรียนทัล จึงออกแบบเป็นไม้จริงเสียส่วนใหญ่ ค่อนข้างดูแลรักษาเยอะพอสมควร และฟังก์ชันใช้สอยต่างๆ ก็ยังไม่เอื้อต่อวิถีชีวิตแบบ ครอบครัวสักเท่าไร การออกแบบบ้านหลังนี้จึงลองกลับมามองย้อนถึงกิจวัตรประจำวันของคนในครอบครัว และค้นพบว่าบ้านที่อยู่สบายคือบ้านที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ซึ่งความสะดวกสบายที่ว่าคือการมีฟังก์ชันครบครันตามที่แต่ละคนต้องการ และที่สำคัญคือไม่ลืมที่จะเตรียมพื้นที่จัดเก็บข้าวของ ของทุกอย่างในบ้านต้องมีพื้นที่รองรับแทนการวางรกหรือเกะกะ”





เมื่อความต้องการร่วมกันของสมาชิกในบ้านคือความเรียบง่ายและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ นำไปสู่การออกแบบภายใต้แนวคิด Form follows function ผู้ออกแบบจึงจัดระเบียบพื้นที่ในบ้านเสียใหม่ โดยยังคงเก็บคาแร็กเตอร์ระเบียงด้านหน้าบ้าน รวมถึงโครงสร้างเดิมเอาไว้ทั้งหมด และเลือกปรับเปลี่ยน เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ด้วยบ้านเดิมมีห้องน้ำอยู่กลางบ้าน บล็อกทั้งลมและแสงธรรมชาติ ภายในบ้านแลดูอึดอัด จึงปรับให้ห้องน้ำในชั้นล่างไปอยู่ในตำแหน่งใต้บันไดซึ่งเคยเป็นพื้นที่ของงานระบบมาก่อน
“เดิมพื้นที่ใต้บันไดไว้สำหรับวางแท็งก์น้ำ มีทั้งเชื้อราและความชื้น เราจึงเปลี่ยนจากงานระบบเป็นห้องน้ำรับแขกที่ออกแบบไว้อย่างสวยงาม จนไม่รู้สึกว่าเป็นห้องน้ำใต้บันไดที่อึดอัด และวางตำแหน่งแท็งก์น้ำใหม่ไว้หลังบ้านที่มีการระบายอากาศดีกว่า”

เมื่อพื้นที่ชั้นล่างเปิดโล่งขึ้น จึงจัดวางผังแบบโอเพ่นแปลน รวมฟังก์ชันพื้นฐานไว้ครบครัน ได้แก่ พื้นที่นั่งเล่นซึ่งไว้สำหรับรองรับแขกในตัว พื้นที่รับประทานอาหาร โซนครัว โดยมีเคาน์เตอร์แพนทรี่สำหรับ เตรียมอาหารอยู่ตรงกลาง จึงสามารถเดินทั่วทั้งชั้นได้อย่างสะดวก
“เราต่อขยายทั้งด้านหน้าและด้านหลังบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่และนำแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน โดยออกแบบให้พื้นที่นั่งเล่นซึ่งติดกับริมหน้าต่างยื่นออกไปเล็กน้อย เข้าใกล้บ่อน้ำและต้นไม้ด้านหน้า กลายเป็นมุมเบย์วินโดว์บรรยากาศดี ร่มรื่นด้วยร่มเงาจากต้นไม้”





บริเวณด้านหลังบ้านเปิดเป็นพื้นที่โล่งแบบกึ่งเอาต์ดอร์ให้ส่วนบริการและโซนซักล้าง ซึ่งในบางเวลากลายเป็นพื้นที่นั่งเล่นหลังบ้านที่โปร่งสบายด้วยแสงธรรมชาติจากการใช้หลังคาแบบโปร่งใส และยังเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับบ้านญาติอีกด้วย การจัดการพื้นที่ดังกล่าวทำให้บ้านมีการระบายอากาศที่ดี เพียงเปิดประตู-หน้าต่าง ลมก็สามารถพัดผ่านได้อย่างสะดวก เมื่อย่างก้าวเข้ามาในบ้านจึงไม่รู้สึกอึดอัด แต่กลับเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่มีแสงธรรมชาติเกลี่ยเข้ามาในบ้านได้อย่างพอเหมาะพอดี
Inside-out บ้านทาวน์เฮ้าส์ที่ออกแบบจากภายในสู่ภายนอก
ด้วยวิธีการทำงานของผู้ออกแบบที่สวมหมวกเป็นนักออกแบบภายในมากกว่า จึงคำนึงถึงรายละเอียดของพฤติกรรมผู้อยู่อาศัยเป็นอันดับแรก นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยในบ้านบางส่วน โดยไม่ลืมปัจจัยสำคัญอย่างสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นแบบไทย ที่ต้องการการระบายอากาศที่ดีจากแสง และลมธรรมชาติ
ดังนั้นพื้นที่ห้องนอนบริเวณชั้น 2 และ 3 ที่แต่เดิมค่อนข้างอึดอัด จึงขยับขยายออกไปในระยะเพียง 50 เซนติเมตร โดยยอมลดความกว้างของระเบียงลง เพื่อให้พื้นที่ใช้สอยภายในเพียงพอก่อน และออกแบบให้ตลอดแนวผนังเป็นบานเลื่อนกระจก ที่สามารถเปิดโล่งได้ตามต้องการ ห้องจึงแลดูสว่าง ไม่อึดอัด ในขณะเดียวกันก็ยังมีชายคาเดิมช่วยกรองเฉดของแดดไม่ให้ส่องเข้ามาด้านในมากจนเกินไป
“เราเก็บระเบียงหน้าบ้านซึ่งทำหน้าที่เสมือนชายคาไว้ และเพิ่มระเบียงให้ห้องนอนที่แต่เดิมไม่มี โดยดีไซน์ให้ดูโมเดิร์นขึ้นด้วยการปิดขอบเชิงชายหลังคาด้วยวัสดุตกแต่งไฟเบอร์ซีเมนต์รูปตัวซี-ชาแนล ทำให้รูปด้านของบ้านดูบางเบาจากเส้นสายที่เฉียบคม”







อีกพื้นที่หนึ่งที่ตั้งใจออกแบบโดยคำนึงถึงพฤติกรรมใช้งานของคนในครอบครัวคือพื้นที่ซักล้างและตากผ้า ซึ่งโดยปกติจะตากผ้าบริเวณชั้นบนอยู่แล้ว จึงออกแบบพื้นที่ซักล้างพร้อมกับพื้นที่ตากผ้ารวมอยู่ ในชั้น 2 ไปเลย โดยไม่ต้องซักผ้าด้านล่างและขนผ้าขึ้นมาตากด้านบนอย่างเคย พื้นที่ดังกล่าวจึงออกแบบ โดยคำนึงถึงแสงและการระบายอากาศที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น








การออกแบบที่เน้นให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายนำไปสู่การแบ่งโซนบริการและโซนจัดเก็บของอย่างเป็นระบบระเบียบ เหมาะสมไปกับฟังก์ชันต่างๆ ในบ้าน ตั้งแต่ชั้นล่างที่มีห้องเก็บของจริงจัง โดยดีไซน์ผนังห้องเก็บของเป็นผนังตกแต่งสวยงามกลมกลืนกับงานตกแต่งภายในบ้าน ห้องนอนแต่ละห้องจะมีโซนวอล์กอินคลอเซ็ตที่เป็นทั้งตู้เสื้อผ้าและพื้นที่เก็บของในตัว ห้องนอนจึงโล่ง สะอาดตา เหมาะแก่การพักผ่อน ไม่เห็นข้าวของวางระเกะระกะ
ซึ่งการเตรียมพื้นที่จัดเก็บของดังกล่าวต้องใช้พื้นที่มากพอสมควร อาจสร้างข้อจำกัดในการออกแบบสถาปัตยกรรม หรือสร้างลูกเล่นได้ไม่มากนัก อย่างการเจาะช่องเปิดขนาดใหญ่ การทำดับเบิลสเปซ เพราะอาจลดทอนพื้นที่ใช้สอยที่จำเป็นสำหรับคนในครอบครัว แต่ผู้ออกแบบเลือกที่จะประนีประนอมความสวยงามกับความจำเป็นในเรื่องการใช้พื้นที่ด้วยมุมมองที่คำนึงถึงการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง เพราะบ้านแต่ละหลังสามารถออกแบบให้สวยได้แตกต่างกันไป ตามบริบทนั้นๆ จึงเป็นที่มาของการเก็บคาแร็กเตอร์บ้านแบบ Terrace House หรือบ้านที่มีระเบียงเอาไว้ และแต่งเติมความโมเดิร์นทันสมัยเข้าไปด้วยสีสัน วัสดุ บ่งบอกถึงความเรียบง่าย สวยงาม และทันสมัย แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป กล่าวได้ว่าทำน้อยแต่มาก ลงตัวทั้งด้านความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย
ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแบบ Modern Australian Style
“เราชื่นชอบความเรียบง่าย จึงชอบการตกแต่งสไตล์ Mid-century และ Modern Australian Style ซึ่งมีจุดร่วมคือความเรียบง่าย ทันสมัย แต่ยังอบอุ่นและใช้งานได้จริง”




การตกแต่งภายในของบ้านหลังนี้จึงไม่เน้นความสวยงามหวือหวา แต่คุมโทนสีสว่างสะอาดตา และแต่งแต้มสีสันด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจที่มีลวดลายเฉพาะตัว หรือรูปทรงบางเบาสวยงาม รวมไปถึงการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ตัวเก่าซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจ บางชิ้นผู้ออกแบบเก็บสะสมมาตั้งแต่สมัยเรียน ข้าวของในบ้านที่เราพบเห็นจึงแฝงไปด้วยเรื่องเล่าผ่านประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวของผู้ออกแบบและ ครอบครัว บ้านหลังนี้จึงมีเสน่ห์ในแบบฉบับของตนเอง ไม่ได้ดูเรียบง่ายตามแบบแผน แต่โดดเด่นด้วย การเลือกของตกแต่งที่สร้างชีวิตชีวาและความหมายให้บ้าน เช่นเดียวกับการเลือกออกแบบโดยคำนึงถึง ความพอใจของผู้อยู่อาศัย เปลี่ยนจากบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่แสนอึดอัดหลังเก่าให้กลายเป็นบ้านที่ทุกคนใน ครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกัน นั่งปล่อยใจสบายๆได้ รู้สึกปลอดโปร่งและปลอดภัย
การรีโนเวตในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมืออย่างเต็มที่ของทีมออกแบบ Taak Interior and Architect ที่ตั้งใจสร้างสรรค์จนออกมาเป็นบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนได้อย่างพอดี แม้จะอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ
Designer’s Tips

“บ้านที่อยู่ได้อย่างสบายคือบ้านที่ออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตผู้อยู่อาศัยมากที่สุด และช่วย ปรับชีวิตประจำวันของเราให้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็น เอื้อให้เราสามารถใช้ชีวิตได้แบบไม่ฝืนพฤติกรรม ดังนั้น การทำความเข้าใจผู้อยู่อาศัย จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างบ้าน เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข“
เจ้าของ : คุณตรรก อัครเศรณี
ออกแบบ : Taak Interior and Architect
เรื่อง : Nantagan
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม
สไตล์ : Suanpuk